Welcome, I'm MahoMaho. This blog about my travel in japan and story about japan.

Translate

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

[5.1.2014] ลุย Joypolis by Sega

[5.1.2014] ลุย Joypolis by Sega

กลับมาพบกันอีกครั้ง พอดีไปเที่ยวทริปยาวมา ก็เลยหายไปเลยไปที่ไหนนะเหรอ ไม่บอก แต่อัพขึ้นบล็อคแน่ๆ ไม่ต้องห่วงงิ

เข้าเรื่อง ดีกว่าครั้งนี้ก็ Odaiba อีกแล้ว  รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แต่ก็อย่างที่บอกว่าเขตนี้ที่เที่ยวเยอะจริงอะไรจริง
ครั้งนี้พาไป Joypolis ของ Sega  เรียกว่าเป็นสวนสนุกในร่มได้เลย ข้างในก็มีเครื่องเล่นที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Sega เต็มไปหมด ถ้าพูดถึงเกมส์ตู้ของค่ายนี้ก็มี  Initial D กับ ซี่รีย์ The house of the dead รวมถึง Project Diva และ Mai Mai  นั้นเอง  เรียกว่าครบกันทุกสายเลยสำหรับเกมส์ตู้

ว่าแล้วก็อย่ารอช้าเลย ไปกันเลยดีกว่า

เริ่มจากรถไฟสาย Yurikamome มาลงที่สถานี Daiba เช่นเดิมแล้วเดินย้อนกลับมาหน่อย
หรือจะลงที่สถานี Odaiba kaihinnkouken แล้วเดินต่ออีกหน่อยก็ได้
เพราะตัวสถานที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองสถานีนี้เลยงิ

สังเกตุง่ายๆ จะมีป้าย Joypolis แปะอยู่ที่บนตัวตีกเลยงิ




หน้าตึกอีกรูป

ถ้าไปลงที่สถานี Daiba ต้องเดินย้อนตึก Aqua City กลับมานะงิ



ด้วยความผิดพลาดทางเทคนิค ก็เลยไม่มีรูปทางเข้าด้านหน้ามาให้ดูกัน ต้องขอโทษด้วยจริงๆ งิ
ก่อนอื่นก็ซื้อตั๋วที่เครื่องอัตโนมัติ

มีหลายราคาเหมือนกัน  (ผู้ใหญ่/เด็ก)
 800   /  300 เยน  ตั้งแต่ตั๋วผ่านประตูอย่างเดียว
3900 / 2900 เยน  ตัวบุ๊ฟเฟ่ทั้งวัน (เปิดยันปิด) (10.00~23.00)
2900 / 1900 เยน  ตัวบุ๊ฟเฟ่รอบเย็น (17.00~)
2400 / 1900 เยน  ตัวบุ๊ฟเฟ่รอบดึก (21.00~)  

สำหรับคนซื้อตัวผ่านประตูอย่างเดียว จะเล่นอะไรต้องเอาตั๋วไปเติมเงินด้วยนะงิ
สำหรับคนซื้อแบบตั๋วบุ๊ฟ สามารถ Re-Entry ได้ตลอดวันนะงิ

แนะนำว่าควรไปแต่เช้า ซื้อตั๋วทั้งวันคุ้มค่าสุดงิ  เพราะค่าเล่นก็ 500 เยน ขึ้นทั้งนั้น เล่นซัก 6-7 อย่างก็คุ้มละ

วันที่ไป ไปถึงประมาณ บ่าย 2 กว่าๆ  ก็จัดตัวบุ๊ฟรอบกลางวัน คนเยอะพอสมควรเลย
(เผลอทำตั๋วหายแล้วก็ไม่ได้ถ่ายรูปไว้อีกแล้ว T_T ขอโทษอีกรอบจริงๆ งิ)



เข้ามาที่ชั้นหนึ่ง สิ่งแรกที่เห็นอยู่ไกลๆ ก็คือเครื่อง Initial D Limited 4
เป็น ID 4 แบบที่ยกรถทั้งอันมาตั้งไว้บนแท่นไฮโดรลิค เวลาเล่นก็รถก็จะเหวี่ยงตามด้วย เรียกได้ว่าพอมีแรง G เข้ามาประกอบแล้ว ยากขึ้นจมเลยจริงๆ
ใครจะลองตั้งแก้วน้ำเล่นก็ตามสบายงิ  แต่ทางนี้ขอผ่านไม่งั้นมีเปียกออกมาแน่ๆ (ฮา)
(รอบละ 600 เยน)
(เล่นไป 4 รอบ มันส์มากงิ XD)

 ทุกคันจะมีพนักงานคอยดูแลประจำเครื่องตลอด ไม่ต้องห่วงหากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น








ข้างๆ กันเป็นโรงหนัง 3D  เป็นเนื้อเรื่องของ Sonic ที่ต้องไปหลบฝนในปราศาทแห่งซึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าในปราสาทนี่มีผีสิงอยู่ เนื้อเรื่องก็สนุกดี ตัว CG ทำได้โอเคเลย แล้วก็ไม่มีบทพูดเน้นการดำเนินเรื่องอย่างเดียว ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษาเลยงิ 





ขึ้นไปเดินเล่นชั้นสองกันบ้าง เป็นชั้นที่มีพื้นที่เล็กที่สุด แต่ก็มีเครื่องเล่นอีกชิ้นที่ไม่ควรพลาด
นั้นก็คือ The house of the dead 4 SP
ต่างกับแบบตู้ปกติตรงที่ เราจะนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่หมุนได้ และจะมีจออยู่ที่ด้านหน้ากับด้านหลัง
เวลาที่เล่นตัวเก้าอี้จะโยกไปมาตามรูปมุมกล้อง หรือเวลาหันหลังกลับก็จะหมุนไปอีกด้าน
เสียดายมีแค่ 2 ฉากเท่านั้นเอง บอสสุดท้ายเป็น Magician (บอสใหญ่ภาคแรก) เล่นด้วยปืนกลก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดนะงิ
( รอบละ 500 เยน)
(เล่นไปรอบเดียว ตอนหลังจะมาเล่นอีกรอบ ปิดซะแล้ว T_T)





เล่นเสร็จข้างๆ กัน มี Let's Go Jungle จะพลาดได้ไง  ก็เป็น เวอร์ชัน SP อีกเช่นกัน รูปแบบคล้ายๆ กันงิ ส่วนปืนก็ไม่ได้ติดที่ฐานอีกแล้ว แต่ใช้ปืนแบบ HOD 4 แทน  แต่เล่นไม่จบง่ะ T_T ยากจริงเกมส์นี้ 

ข้างๆ กันอีกฝั่งจะเป็นลู่วิ่ง 8 เลน เป็น Sonic เวอร์ชันกรีทา เล่นสนุกๆ ขำๆ 
(รอบละ 500 เยน)
(รอบเดียว เพราะคนไม่ค่อยเล่นกันเท่าไหร่ เล่นคนเยอะๆ สนุกกว่านะงิ)


ขึ้นไปดูชั้น 3 บ้างดีกว่า
ขึ้นมาก็เจอกับ  objection  อันใหญ่ๆ เลย  พร้อมฉากประกอบ ไม่เคยเล่นมาก่อนเหมือนกัน แต่ก็มีเพื่อนๆ ที่เล่นเยอะ ก็เลยพอเข้าใจธีมของเกมส์อยู่   แต่ไม่ได้เล่นนะ แบบว่ากลัวภาษาไม่แข็งแรงพอ (ฮา)

โดยของที่นี่ จะมานั่งกดเฉยๆ ได้ยังไง ยกกันมาทั้งฉากเลยทีเดียว พร้อมกับจอทีวีใหญ่ อธิบายเนื้อเรื่องและคดี หลังจากนั้นก็จะได้กระดาษมา เพื่อให้เขียนสรุปข้อมูล แล้วก็เอาไปส่งเข้าเครื่องอีกที ระบบน่าสนใจเลยทีเดียว

(รอบละ 600 เยน)



ชั้น 3 เองก็พื้นที่กว้างมากเหมือนกัน ดังนั้นเครื่องเล่นก็เลยเยอะตามไปด้วย 
สำหรับคนที่ชอบพวกเครื่อง Simulator หรือหนัง 4 มิติ ชั้นนี้ก็มีซีรีย์พจนภัยให้ลองกัน
โดยจะมีทั้งทางรถ ทางเรือ และทางเครื่องบิน  ซึ่งเนื้อเรื่องของแต่ละพาหนะ ก็จะมีCrossover กันนิดหน่อยด้วย


เริ่มจาก Wild Wing ทางอากาศกันก่อนเลย 
ระหว่างรอขึ้นเครื่อง ก็ดูฉากที่เขาตกแต่งประกอบไปพลางๆ ได้ ทำฉากได้สวยเหมือนกัน 





ต่อมา ก็ขอรถบ้างล่ะ กับ Wild Jungle Brother 




สุดท้ายกับทางน้ำ Wild River 
แน่นอนมีการพ่นน้ำด้วย (ฮา) แต่ก็แบบพอให้ได้อารมณ์นะงิ ไม่เปียก




ส่วนตัวแล้ว ชอบ Wild Wing ที่สุดนะงิ 
ภายในห้องฉาย ฉากรับภาพทำเป็นทรงโค้งก็ให้มิติที่ดีกว่า แบบที่เป็นฉากสี่เหลี่ยมตรงๆ ทั่วไปนะงิ
ถือว่าสั้นไปซะหน่อย แต่ก็โอเคล่ะสำหรับคนที่ชอบพวกหนัง 4D
(รอบละ 500 เยน)  


มาทางโซนผีๆ บ้าง ทีเด็ดเลยละกันกับ
Sadako 3D บ้านผีสิงที่น่ากลัวใช่ย่อยเลย โดยตอนเริ่มเราจะได้รับบีฟด้วย พร้อมกับได้รับกล้องดิจิตอลและใบคำสั่ง สิ่งที่เราจะต้องถ่าย โดยหนึ่งรอบจะมีประมาณ 8 คน แบ่งเป็นทีมย่อยทีมละ 2 คน (แต่ก็ไปด้วยกันทั้งหมดอยู่ดีนะ) พร้อมกับคุณนักสืบ(สต๊าฟอีกคน)   ซึ่งเขาก็จะคอยบอกเมื่อต้องถ่ายรูป และก็ทำการดำเนินเนื้อเรื่องต่างๆ ด้วย  เหมือนเราอยู่ในหนังยังไงอย่างนั้นเลย
หลังจากผ่านทุกห้องมาได้ก็จะทำการเช็ครูปถ่าย ว่าถ่ายได้ถูกต้องหรือไม่ เพื่อเปิดอีเวนท์สุดท้าย
แต่พอดีทีมของเราถ่ายพลาดไป 2 คน ก็เลยอดไป T_T
เรียกว่าสนุกได้ที่เลย สำหรับคนที่ตามซีรีย์นี้อยู่แล้วไม่ควรพลาด 
(รอบละ 600 เยน)  







แนวผีอีกอันหนึ่ง ที่น่ากลัวมากๆ เพราะเล่นกับความมืด แสงและเสียง เรียกว่าใช้จิตวิทยาความกลัวได้ดีทีเดียว ภายนอกก็ตกแต่งซะน่ากลัวเลยเหมือนกัน  ตอนที่ไปเห็นมีกลุ่มคนกำลังเข้าไปพอดี ก็เลยขอแจมด้วย  
ตามชื่อเครื่องเล่น The Room of the Living Doll  เราจะพาเข้าไปในบ้านซึ่งห้องที่เราเข้าไปนั่งจะมีตุ๊กตาตั่วหนึ่งนั่งอยู่ที่ด้านหนึ่งของห้อง น่ากลัวมากง่ะ  กลางห้องเป็นโต๊ะยาว แล้วเราก็จะถูกจับให้นั่งเรียงกันฝั่งละ 6 คน  มีหูฟังให้ เนื้อเรื่องก็จะดำเนินไป ประมาณว่า ตุ๊กตามีชีวิต แล้วก็คอยฆ่าคนที่เข้ามากวน แล้วพวกเราก็จะโดนเก็บไปด้วย 
แน่นอนเนื้อเรื่องบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น ก็เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง  แต่เอฟเฟตแสงสีเสียง ทำให้รู้สึกกลัวแบบจริงๆ จังเลยๆ นะ  หลอนมากจริงๆ  ฟังเนื้อเรื่องไม่ออกก็หลอนได้ รับประกันเลย 
(รอบละ 500 เยน)  







ผ่อนคลายกันบ้างดีกว่ากับ Fortune Forest  
เป็นโซนดูดวงด้วย Rune / Runic แบบ 3 ตัวอักษร หลายๆ คนคงเคยดไพ่ทาร็อต ลองมาดูด้วย Rune กันบ้างก็เปลี่ยนอารมณ์ดีนะ  ซึ่ง Rune เองก็เป็นภาษาโบราณอีกภาษาหนึ่ง ใช้ในทางยุโรปเหนือ ชาวนอร์สหรือสแกนดิเนเวีย ชาวไวกิ้งก็ใช้ และยังเป็นภาษาที่ใช้ติดต่อกับเหล่าเทพใน Norse Mythology อาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อกัน แต่ถ้าพูดว่า เทพโอดิน เทวีเฟรยา หรือโลกิ และสงครามแร็กนาร็อก หลายคนคงร้องอ๋อ  


เอาละกลับมาต่อๆ เริ่มจากตอนแรกจะได้รับแผ่นคริสตันมา หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปด้านใน จะมีจุดลงทะเบียนคริสตัน เราก็กรอกรายละเอียดส่วนตัวตามปกติ เหมือนเวลาไปดูดวง  โซนต่อไป ก็จะเป็นป่าเวทมนตร์ ทำได้สวยมากๆ ฉากสวยอลังการ แบ่งพื้นที่ออกเป็น ต้นไม้ ภูเขา และน้ำแข็ง 

ตามจุดต่างๆ ของฉาก จะมีแทนวางคริสตัน ให้เราใส่คริสตันของเราเข้าไป ก็จะมีกระบวนการถามตอบคำถาม และเลือก Rune  และนอกจากแทนวางคริสตันสำหรับทำนายแล้ว ก็ยังมีแท่นวางคริสตันที่จะมี CG เอฟเฟคเป็นภูติประจำจุดด้วยนะ  

หลังจากได้ Rune มาครบทั้ง 3 ตัว ก็เอาคริสตันไปที่ห้องสุดท้าย แล้วก็จะคืนคริสตันก็จะได้ ใบคำทำนานออกมาล่ะงิ 

เรียกว่า ไอเดียดีมากๆ เลยสำหรับ วิธีการดูดวง 
(รอบละ 600 เยน) 
(โดนดูดเวลาไปเยอะเหมือนกัน ฉากสวยจริง แล้วก็ตามเก็บ CG)




กลับมาที่ชั้น 1 อีกที กับ Veil of Dark  
ตอนแรกคนต่อคิวเยอะมากเลยไม่ได้เล่น ไปเล่นอย่างอื่นก่อนแทนงิ
เป็นแนวรถไฟเหาะ + ยิงปืน  คันนึงนั่งได้ 4 คน ที่เช็มขัดตรงลางจะมีแกนสำหรับโยกเป้า ซ้าย-ขาว (เท่านั้น)  แล้วก็มีปุ่มยิง   
รถก็จะวิ่งไปตามลางและ จะมีมอนสเตอร์ออกมาให้เรายิง จนถึงช่วงสุดท้ายก็จะเป็นการหลบหนี ก็จะได้นั่งรถไฟเหาะมีการควงสวานตีลังกาด้วยนะ สนุกดีงิ 
(รอบละ 800 เยน)
(จัดไป 2 รอบ สนุกมาก แต่คะแนนไปไม่ถึง Top เสียดาย (ฮา))



แล้วก็ขึ้นไปชั้นสองอีกที เพื่อเล่น Storm G  
เป็นอีกเครื่องที่ตอนแรกคนต่อคิวเยอะมาก 
เป็นเกมส์แข่งยาน ที่เจ๋งมาก มีท้ั้งหมด 4 คน คันนึงนึ่งได้ 2 คน
โดยที่ความโดดเด่นคือ ตัวเครื่องสามารถหมุนควง 360 องศาได้
ตอนเริ่มเกมส์จะทำการเลือกฉาก มีแค่ 2 ฉากเท่านั้น คือง่าย กับยาก (ฮา)  ถ้าระดับยากนอกจากทางที่คดเคี้ยวแล้วก็จะมีจุดที่หมุนควงสว่านเยอะนั้นเอง  แน่นอนระดับเราเล่นยากอยู่แล้ว (ฮา)

ระบบบังคับ เป็นคันโยกอยู่ทั้งสองฝั่ง และมีปุ่มเพื่อกดบู๊สอยู่ด้วย (เวลาบู๊สจะหมุนควงล่ะงิ)
โยกไปข้างหน้าก็จะเร่งความเร็ว โยนสลับกัน ก็จะเป็นการเลี้ยงนั้นเอง 

สนุกจริงๆ ใครที่ขอบเกมส์แข่งรถ ที่เน้นความเร็วเป็นหลัก แนะนำให้ลอง
(รอบละ 600 เยน)
(เล่นไป 2 รอบ เจอโดน 720 องศา  ต่อด้วย รีเวิร์ส 720 องศา  ทำเอาเกือบอวกเลยทีเดียว ไม่ไหวจะเคลียร์ง่ะงิ)






เอาหมุนกันเข้าไปเอาให้ตายไปข้างเลย







สุดท้ายที่เรียกว่าเป็นทีเด็ดของที่นี่เลยก็คือ Halfpipe Tokyo
เรียกว่าใครมาแล้วไม่เล่นนี่เหมือนมาไม่ถึง ขอนับเข้าเป็นพวก Music Game ละกัน
เพราะวิธีเล่นนั้น เราจะโดนมันติดกับแทนทั้งๆ ที่ยืนอยู่ ที่เท้าจะเป็นแป้นเหยียบเพื่อให้เราเหยียบให้ตรงจังหวะ และเมื่อเสียงดนตรีดังขึ้น เครื่องก็จะแกว่งเราไปมา ส่วนจังหวะที่เราต้องเหยีบบก็เครื่อง เมื่อเครื่องแกว่งมาที่จุด 0 องศานั้นเอง
แต่มันไม่จบเท่านี้นะสิ เพราะ เมื่อเราเหยีบบแป้นแล้ว ถ้าตรงกับตำแหน่ง Perfect เครื่องจะทำการหมุนตามแกนแนวตั้ง ซึ่งหากได้ Perfect ก็จะหมุน 1080 องศากันเลยทีเดียว  เรียกว่าเล่นเอามึนจนทำ All Perfect ไม่ได้เลยทีเดียว (ฮา)
(รอบละ 800 เยน)
(จัดไป 3 รอบ)





เตรียมพร้อม

ดนตรีมา เอาแกว่งได้ 

ถึงเวลาเหยีบบ ทั้งแกว่งทั้งหมุนเลยทีนี้




แน่นอนนอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ อีกมากที่เราไม่ได้ลอง อย่าง 
The Joypolis Explorer  เกมส์ไขปริศนาที่ซอนอยู่ทั่วพื้นที่ของ Joypolis 
AnxAn Live เกมส์ตอบปัญหา ที่เล่นกันสดๆ จำลองเหมือนเราไปเล่นในห้องส่งกันเลยทีเดียว 


สำหรับคนที่ชอบถ่าย Purikura ก็มีมุมสำหรับถ่ายด้วย มีชุดให้เปลี่ยนด้วยนะ คนที่ซื้อบัตรบุ๊ฟมา ถ่ายฟรีแค่รอบเดียวนะงิ (เป็นอย่างเดียวที่ได้แค่รอบเดียวงิ)  (เผลอเล่นเพลินจนลืมถ่ายเลยง่ะ T_T) 

แน่นอนพื้นที่เกมส์ตู้ของค่ายตัวเองก็มีอยู่แล้ว(ฮา)

นอกจากนี้ยังมี Main Stage สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ด้วย

ส่วนพื้นที่อื่นๆ ก็ทำได้ดีเลยทีเดียว เพราะจะมีจอ LCD ใหญ่ๆ ที่มีลูกเล่นต่างๆ กระจายอยู่ทั่วพื้นที่เลย ซึ่งแต่ละจอก็จะมีลูกเล่นที่ต่างกันไป โดยลูกเล่นเหล่านี้ก็จะมีการตอบสนองต่อท่าทางของเราด้วย
คอนเซ็ป Experience the fusion of Digital and REAL world.


สุดท้ายที่ทางออกก็มีร้านขายของที่ละลึกตามระเบียบงิ 


ก็ถือเป็นอีกสวนสนุกในร่มที่แฟนๆ Sega ไม่ควรพลาด สามารถสนุกจนลืมเวลาได้อย่างแน่นอน 

หรือในจะจับรวมไว้ในทริปกันดัมเลยก็ได้นะ เพราะสองตึกนี้อยู่ห่างกันนิดเดียวเอง ไปโอไดบะทั้งทีเอาให้ครบเลยงิ 


ซึ่งเอาจริงๆ โอไดบะ เป็นอะไรที่เที่ยวได้แบบ 24 ชม. ได้เลย
เริ่มจาก เช้าไปดู Gundam Front Tokyo  บ่ายเล่น Joypolis หลังจากนั้นก็เล่น Spo-Cha รอบโต้รุ่ง
อีกวันถ้ามีอีเวนท์ที่ tokyo big site ต่อก็จะลุยเลยก็ยังได้ (ฮา)

เพิ่มเติม Spo-Cha อยู่ในตึกเดียวและชั้นเดียวกับกันดัม เป็นพื้นที่ๆ รวมพื้นที่เล่นกีฬาหลายๆ อย่างไว้ และมีเกมส์ตู้ด้วย ทั้งหมดเป็นราคาเหมารวม เพราะงั้นเกมส์ตู้เวลาเล่นก็ไม่ต้องหยอดนะงิ กีฬาก็เยอะมาก ตั้งแต่ แบต บาส บอล พลู ไปจนถึง ขี่วัว ปาเป้า เบสบอส เทนนิส โบว์ลิง โรเรอร์เบด ไดร์ฟกอล์ฟ ฯลฯ  และยังมีห้องคาราโอเกะ โซนอ่านหนังสือ อีกด้วย   เรียกว่าเล่นจนเช้าได้ไม่เบื่อเลย




ก็ขอจบโพสต์นี้ไว้เท่านั้น ครั้งหน้า เป็นทีเด็ดอีกแล้ว ไป Outdoor กันบ้างล่ะ แต่จะเป็นที่ไหน ไว้คอยลุ้นกันนะ  
แล้วเจอกันโพสต์หน้านะงิ 

Link 









วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

[30.12.2013] ลุยงาน Comic Market 85

[30.12.2013] ลุยงาน Comic Market 85

หลายๆ คนคงรอลุ้นอยู่ว่าเมื่อไหร่่จะอัพรูปชุดนี้ซักทีเป็นแน่ๆ

เกริ่นกันก่อน  งาน Comic Market เป็นงานเกี่ยวกับการ์ตูนที่ปีหนึ่งจะมีแค่ 2 ครั้ง
ซึ่งงานจะจัดทั้งหมด 3 วัน  (เราไปวันที่สองนะ)  ที่ Tokyo big site 

ผู้เข้าร่วมในส่วนของบูธขายสิ้นค้า ก็มีจากทั้งผู้ผลิตโดยตรง และผู้ผลิตระดับ 2 (โดจิน) 
รวมทั้ง3 ก็เกิน 30000 เจ้า (เขานับเป็น เซอร์เคิลนะ)  
ยังไม่นับผู้เข้าร่วมงานรวม 3 วัน ก็มากกว่า 500,000 คนเลยทีเดียว
เรียกว่าเป็นงานที่สำหรับคนที่รักการ์ตูนแล้ว ไม่ควรพลาดแม้แต่น้อย 

โดยก่อนหน้างานก็จะมีแคตตาล็อคขายด้วย เพื่อจะได้วางแผนการซื้อของได้ถูก ได้ยินมาว่า พวกนักล่าของทั้งหลายมีการใช้ ว. กันด้วย  ทำงานกันเป็นทีมราวกับอยู่ในสนามรบกันเลยทีเดียว

และยิ่งสำหรับสินค้าที่มาจากเรื่องที่กำลังเป็นที่นิยม ก็มันจะขายกันหมดก่อนเที่ยงวันเสียอีก ก็เลยมีหลายคนที่ยอมต่อคิวข้ามคืนกันเลยทีเดียว (หนาวก็หนาว ไม่รู้ทนไปได้ยังไง)

ว่าแล้วก็ไปลุยกันเลยดีกว่า 



ไม่ได้มีของอะไรที่เล็งไว้เป็นพิเศษ เลยไม่ได้ไปต่อคิวข้ามคืนตามธรรมเนียมนะงิ (ฮา) 
ก็นั่งรถไฟสาย Yurikamome ตามเดิมมุ่งสู่ Tokyo Big Site 
เวลาประมาณเที่ยง อากาศกำลังดี ไม่หนาวมาก มีเมฆแต่ก็สว่างกำลังดี 


เห็น Tokyo Big Site อยู่ไกลๆ ละ
ลงสถานี  Kokusaidennjijouseimon  ชื่อยาวมากง่ะ 









แน่นอนว่าคนเยอะมากๆ ถึงมากที่สุดเลยล่ะ





ตึกที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ 



เดินเข้ามาด้านใน คนก็เยอะอีกแล้ว 


อธิบายเพิ่มเติมนิดหน่อย ที่นี่เขาจะแบ่งออกเป็น ฝั่งตะวันออก กับ ฝั่งตะวันตก และ งานนี้เองก็ ใช้พื้นที่ทั้งหมดเสียด้วยสิ  ใหญ่มากมาย 

เริ่มจากเดินสำรวจฝั่งตะวันตกก่อนเลยละกัน 








เป้าหมายแรกคือขั้นบนสุด โซนของผู้ผลิต   ส่วนด้านล่างเป็นของโดจิน
บันไดเลื่อนในภาพ สำหรับสต๊าฟเท่านั้น ก็งงอยู่นานเลย ว่าจะขึ้นไปไงดี
สรุปคือต้องเดินออกไปขึ้นบันไดด้านนอกซะงั้น (ฮา)

ชั้นบนนอกตัวอาคารจะเป็นพื้นที่สำหรับ Cosplay  เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน




ดูบูธของผู้ผลิตกันก่อนดีกว่า 

















ไม่ทันหมดวัน Type-Moon เก็บบูธไปแล้ว รอขายต่อวันพรุ่งนี้  อย่างเร็วง่ะ




เบรกกันด้วย คอสเพลย์ของบูธผู้ผลิตกันซะหน่อย 










NicoNico ก็มานะงิ อยู่โซนเดียวกับบูธผู้ผลิตเลย




เปลี่ยนฝั่งไปเดินฝั่งตะวันออกบ้างซึ่งจะเป็นส่วนของบูธโดจินทั้งหมดล่ะ






มองไม่เห็นอีกฝั่งนึงเลย อย่างกว้างง่ะ 





มีอย่างนี้ 4 ฮอลล์ ง่ะ  เดินกันให้ตายไปข้างนึงเลยเอา 



----------------------------------------------------------------------

ถึงเวลาที่หลายๆ คนรอคอยแล้ว ภาพของเหล่าคอสเพลย์ญี่ปุ่น

จริงๆ ทางงานก็มีบริเวณหลายจุดที่เป็นโซนคอสเพลย์  แต่ว่าแค่ส่วนดาดฟ้าอย่างเดียวก็แทบเก็บไม่หมดแล้วง่ะ เยอะจริง อะไรจริง

ก็ยังประทับใจกับการถ่ายรูปของญี่ปุ่น เพราะเขาเข้าคิวถ่ายกัน และมีการขออนุญาติและขอบคุณ ทุกครั้งด้วย  
ยกเว้นคนที่มีคนอยากถ่ายเยอะจริงๆ  ก็จะโดนล้อมตามปกติ ไม่สิยิ่งกว่าไทยซะอีก เพราะล้อมกันเป็นวงกลมเลยทีเดียว   ส่วนเลเยอร์ ก็ค่อยๆ โพสหมุนไปรอบๆ ได้รูปกันทุกมุมไม่ว่าจะ หน้าหลังซ้ายขาว กันเลยทีเดียว 

และที่สำคัญ ถึงเราจะเอากล้องมือถือไปถ่าย แต่ก็ยังโพสให้อย่างเต็มที่อยู่ดี ชอบตรงนี้มากๆ เลยจริงๆ 

จะว่าไป บางคนทั้งๆ ที่อากาศหนาวก็ยังท้าสู้เหมือนกันนะ เปิดแขนหน้าหน้าหลัง ซะแบบไม่กลัวหนาวกันเลย  (เราก็เอาชุดไปนะ แต่ไม่ไหวง่ะ ชุดคอสที่เอามันเอาไม่อยู่ง่า~~~  ก็เลยไม่ได้คอส XD)

ส่วนเรื่องการวางของ ทางงานก็มีพื้นที่สำหรับฝากของซึ่งก็มีคนใช้บริการเยอะเหมือนกัน แต่อีกส่วนหนึ่งก็ติดตัวเลย เดินไปไหนก็เอาไปด้วย ไม่มีกองทิ้งไว้แล้วเดินไปถ่ายไกลๆ นะงิ 





ก็พยายามถ่ายให้ดีที่สุดเท่าที่กล้องมือถือจะทำได้แล้วนะงิ  
คุณภาพอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะงิ
แต่ก็อยากได้รูปดีๆ จังเลยง่า~~~~ (สงสัยต้องเก็บตังซื้อกล้องซะละ)


เอาล่ะ ไปดูกันเลยดีกว่า 






























คนเยอะมาก แต่กยังต่อคิวถ่ายกันนะ เป็นระเบียบดี  
ไม่มีแย่งกัน ไม่มีบังกล้อง ได้ภาพดีๆ กันถ้วนหน้า เย้ๆ 























































ถึงจะใช้กล้องมือถือ เขาก็มองให้นะ
(ต้องขอบคุณมากๆ เลยงิ)





























เสียดายถ่าย มิกุ ได้แค่ใบเดียว เพราะแตกวงกันซะก่อน 












เมื่อกี้ได้แค่ใบเดียว แล้วมุมไม่ค่อยสวยด้วย  เลยรอให้คนเริ่มซาแล้วไปขอถ่ายอีกรูป
แต่เพื่อเขาอีกคน ยังคิดคุยกับคนอื่นอยู่ เสียดายง่ะ T_T

















  ล้อมเป็นวงเลยทีเดียว




อีกซักรูปสองรูป ก่อนจาก 






ของที่ได้ ออกจะน้อยไปซะหน่อย แต่ไม่ได้ซื้อแคลตาล็อคไว้ก็เลยไม่รู้จะซื้ออะไรเหมือนกัน
แถมแค่ถ่ายคอสฯ อย่างเดียวก็เวลาจะหมดแล้วง่ะงิ





ครั้งหน้า จะเป็นที่ไหน ก็ไว้คอยติดตามกันน้า~~~~~
ไว้เจอกันใหม่งิ (>.<)//