Welcome, I'm MahoMaho. This blog about my travel in japan and story about japan.

Translate

วันพุธที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557

[11.2.2014] ทริป Hokkaido Day 1 - Sapporo Snow Festival

[11.2.2014] ทริป Hokkaido Day 1 - Sapporo Snow Festival

หายกันไปอีกแล้ว พอดีติดช่วงสอบปลายเทอม แล้วก็มีธุระด่วนนิดหน่อย ก็เลยไม่ได้มาอัพบล็อค ต้องขอโทษทุกคนด้วยจริงๆ งิ

เอาล่ะ ครั้งนี้อย่างที่สัญญาไว้ ว่าเราจะไปทริปไกลๆ กันอีกแล้ว ครั้งนี้จะเป็นทริปยาว 5 วัน ไป Hokkaidou ล่ะงิ
พูดถึงที่มาที่ไปก่อน ทริปนี้เราไปกับ HIF (Hokkaido International Foundation)  เป็นทริปพิเศษทำหรับนักเรียนต่างชาติในญี่ปุ่น เห็นแล้วน่าสนใจดีก็เลยจองไปล่ะ
แล้วก็อยากจะบอกว่าเป็นหวัดก่อนไป แล้วไปหายที่โน้นด้วยล่ะ (ฮา) ตกใจตัวเองเหมือนกัน เพราะเพื่อนผู้หญิงที่ไปด้วยป่วยกับมากันทั้งนั้นเลย (ฮา)



เริ่มเลยละกันเนอะ

วันแรก ขึ้นเครื่องบินที่ Haneda Airport เพื่อนๆ จากโรงเรียนเดียวกัน รวมเราแล้วก็ 4 คนเท่านั้นเอง แต่จากรายชื่อที่ได้รับมาก่อนหน้าก็มีบางคนที่มาคนเดียวเหมือนกันนะ

นั่งรถไฟสาย Keikyu เข้าไปที่สนามบินเลย เพิ่งมา Haneda ครั้งแรก เพราะตอนมาก็ลงที่นาริตะ ภายในก็สว่างดีเลย ดูทันสมัยมากๆ แม้ตัวสนามบินจริงๆ มีประวัติความเป็นมานานหลายสิบปีแล้วก็ตาม (อาจจะเป็นเพราะอยู่ในอาคารใหม่ก็เป็นได้)





มุมนี้ถ่ายออกมายังกับในหนัง Sci-Fi เลย (ฮา)




ทางเดินไปยังจุดเช็คอิน ต้องเช็คอินเองด้วยนะ ไม่มีสต๊าฟมารับ แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเพราะมีหมายเลขเคาเตอร์และแผนที่ส่งมาให้เรียบร้อยแล้ว 

แล้วตัวเคาเตอร์เองก็หาไม่ยากด้วย เป็นสนามบินที่แสงส่งลงมาได้กำลังดีเลย โล่งโปร่งสบายมากๆ ไม่รู้สึกอึดอัดเลย




เหล่าเพื่อนๆ ที่มาด้วยกัน ด้านหน้าเป็นคนไทย ด้านหลัง ผู้หญิงเป็นคนเวียดนาม ผู้ชายคนเกาหลี



เคยขึ้นเครื่องบินก็หลายครั้ง แต่ก็อดถ่ายรูปเครื่องไม่ได้อยู่ดี ฮิฮิ


ภายในตัวเครื่อง นั่งท้ายพอควรเลย ในกลุ่มที่นั่งนี้ก็มีแต่คนที่ไปทริปเดียวกันทั้งนั้นเลย 
แต่ยังไม่สนิดก็เลยยังไม่ได้ทักใครล่ะงิ 


นั่งแป๊ปๆ ประมาณ 2 ชม. ก็มาถึง ฮอกไกโดแล้ว
สิ่งแรกที่เห็นชัดเจนเลยคือหิมะล่ะงิ


New Chitose Airport




คว้ากระเป๋าแล้วก็มารวมกลุ่มกับทุกคนล่ะงิ





โดนต้อนขึ้นบัสเรียบร้อย รวมแล้วก็ 2 บัสเต็มๆ เลยงิ





ได้ Guide Book มาด้วยล่ะ

ตลอดทางเข้าเมืองก็มีแต่หิมะเต็มไปหมดเลย






Sapporo TV Tower โครงสร้างคล้ายๆ กับ Tokyo Tower เลยงิ




ถึงโรงแรมละ คืนนี้นอนกันที่นี่แหล่ะงิ



ให้เห็นว่าหิมะตก (ตกตั้งแต่ลงจากเครื่องละ)



โอ๊ รร.นี้เคยมีทีมเบสบอลมาพักด้วยนะ



วิวจากหน้าต่างห้อง ได้ห้องริมพอดีเลย


ห้องแบบญี่ปุ่นงิ

หลังจากเช็คอินก็เป็นฟรีไทม์ ก็เลยตกลงว่าจะไป shiroi koibito park กันก่อนไปดูเทศกาลหิมะ
เดินออกมาจากหน้าโรงแรม หิมะปกคลุมไปหมดทุกอย่างเลย
หิมะ ฮอกไกโดนี่เกล็ดละเอียดกว่าโตเกียวมากๆ เลยนะ จับแล้วนุ่มกว่าแบบเห็นได้ชัดเลย
(ตอนที่ตกใหม่ๆ มันก็สวยหรอก แต่ส่วนที่อยู่บนถนนให้รถวิ่งนี่ดำมากง่ะ ยิ่งตอนละลายนี่อย่าให้พูดดีกว่า)




เพื่อจะมุ่งหน้าไป shiroi koibito park เราต้องนั่งรถไฟใต้ดินไปกัน
ก็นั่งไปลงที่สถานี Miyanosawa (宮の沢駅) แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที


คนน้อยไม่เหมือนที่โตเกียวเลย



แต่หน้าตารถไฟคล้ายๆ กันนะงิ



อะไรๆ ก็ขาวโพลนไปหมดเลย 


มุมนี้วิวสวย



เดินมาอีกหน่อยก็ถึงแล้ว โรงงานช็อคโกแล็ตของพี่ Tim Burton
เอ้ย!! ไม่ใช่ ของ Shiroi koibito ขนมขึ้นชื่ออันดับหนึงของ ฮอกไกโด



ด้านข้าคือสวน สำหรับถ่ายรูป ในฤดูอื่นๆ ก็เอาไว้นั่งเล่นได้ด้วยนะ




เข้าไปข้างในแล้วก็รูปถ่ายยาวๆ เลยละกัน









ด้านหน้าคือส่วนอาคารด้านพิพิธภัณฑ์ และร้านค้า
สวยมาก สวยทุกอย่างเลยจริงๆ

























เข้ามาข้างในกันบ้างดีกว่า  (ประตูแบบหมุนด้วยล่ะ)


เข้ามาแล้วสิ่งที่เห็นก็คือ บันไดนี้เลย
ถ้ามืดๆ นึกว่า  Bio 1 ได้เลยนะเนี่ย (ฮา)



มีตู้เลี้ยง Sea angel ด้วย




ก่อนซื้อของฝาก ขอเดินสำรวจชั้นสองก่อนละกัน เป็นส่วน พิพิธภัณฑ์
มีของน่าสนใจเยอะมากๆ เลย















มีแบบแปลนเจ้าหนูอะตอมด้วย






ทางเดินนี้ให้บรรยากาศคล้ายๆ ในเกมส์ Castlevania เลยทีเดียว
ด้านข้างมีกระจกสีด้วยนะ




อีกฝั่งหนึ่งเป็นโซนที่จะต้องจ่ายเงินเข้าไปดู ซื้อไม่ได้เข้าไปเพราะเวลาไม่พอ
(น้ำตกช็อกโกแล็ตก็อยู่ในโซนเสียตังนั้นแหล่ะงิ)



เห็นอย่างนี้ไม่ใช่ทดลองเคมีนะ แต่เป็นห้องทำลูกกวาดนะงิ
(โซนขายของลืมถ่ายง่า~~~~ T_T)


ออกมาด้านนอนอีกทีก็เริ่มมืดเสียแล้วสิ




ถ้ามาถูกเวลา ในส่วนของสวนด้านนอก กลไกตามจุดต่างๆ จะทำงานด้วยล่ะ
พร้อมกับมีเพลงบรรเลงดังไปทั่้วทั้งสวนเลย





หอคอยด้านบนกำลังเปิดฉากออกล่ะ



พวกหุ่นที่ประดับอยู่ก็มีขยับด้วยนะ





กำแพงฝั่งนี้ก็มีลูกเล่นเหมือนกัน


เป็นสวนที่ซ่อนลูกเล่นเอาไว้หลายจุดมากๆ เพลินเลยทีเดียว



เอาล่ะ ออกเดินทางอีกทีไปยังเทศกาลหิมะกันดีกว่า 

พูดถึงฮอกไกโดแล้ว สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือเทศกาลหิมะนั้นเอง 
เป็นอะไรที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง 
วันที่มาดูเป็นวันสุดท้ายของเทศกาลพอดี บางจุดเลยดูไม่ชัดเจนเท่าไหร่ (น่าเสียดายเหมือนกัน)

เริ่มจากโซนประกวดก่อนเลยดีกว่า









มีประเทศไทยด้วยนะ





อันดับหนึ่งเป็นของเกาหลีล่ะงิ ทำรูปทรงได้แปลกตามากๆ 
ไม่คิดเลยว่าแค่หิมะล้วนๆ จะทำโครงสร้างแบบนี้ออกมาได้













ของไทย ได้ที่ 3 เลยทีเดียว
ว่าแต่ บ้านเราไม่มีหิมะแท้ๆ เขาไปฝึกกันที่ไหนนะ
(อาจจะเป็นเมืองหิมะดรีมเวิร์ล หรือทรายตามชายทะเลก็เป็นได้)


ถัดจากงานประกวดก็เป็นโซนของ Miku ล่ะงิ
ปีนี้มาในธีมสาวน้อยเวทมนตร์ น่ารักมากๆ เลยทีเดียว
(ด๋อยของปีนี้ก็ทำออกมาได้น่ารักมาก เลยเหมือนกัน)









สวยงามมากๆ เลยกับ Snow Miku 2014






ตรงข้ามกันก็มีโซนขายของตามระเบียบ แน่นอนว่าหลายๆ ชิ้นก็มีหมดไปแล้ว
(วันสุดท้ายนิน่า)



ไปดูงานส่วนอื่นกันบ้างดีกว่า
เวทีใหญ่แต่ละจุดก็จะใช้หิมะสร้างขึ้นมากันเลยทีเดียว





ร้านค้าก็มีให้แวะชิมแวะทานกันตลอดทาง
ของกินฮออไกโดนี่อร่อยดีจริงๆ











ระหว่างทางที่ขั้นระหว่างเวที ก็จะมีงานชิ้นเล็กตั้งอยู่ตลอดทางเดินเลยล่ะ













ม้าตัวนี้ตอนใหม่ๆ ต้องสวยมากแน่ๆ เลย




จะบอกว่าอันนี้อลังการมากๆ ง่ะ
มีการยิงแสงไฟด้วยนะ
เป็นการแสดงไฟแบบที่กำลังนิยมในญี่ปุ่น
คือนอกจากจะยิงไฟไปบนวัตถุแล้ว ยังมีการยิงภาพอีกด้วย
เหมือนเป็นการทาสีลงไปบนพื้นผิว ทำให้ดูตื่นตาตื่นให้มากๆ เลยทีเดียว














ดูเป็นภาพเคลื่อนไหวดีกว่าเนอะ







มาทั้งอาคารกันเลยทีเดียว



มีเหล่า Idol กำลังร้องเพลงพอดีเลย 





เวทีนี้มี performance dance พอดีเลย







อันนี้มาแปลก มาเป็นน้ำแข็งเลยทีเดียว แต่ก็สวยมากๆ เลยนะ





กำลังแข่งสกีผาดโผนกันอยู่เลย
(ชอบๆ พวกกีฬา X Game เป็นการส่วนตัว)






จะบอกว่ามันสูงมากๆ 


โซนสูบบุหรี่ทำจากน้ำแข็ง ไฮโซง่ะ







Ice candles ล่ะงิ 


โดมด้านหลังก็สวยดีเหมือนกันนะ 



เวทีนี้ฉากหลังสวยมากๆ
(Sapporo TV Tower นิน่า)




ด้านข้างมีการบรรเลงสด เดี่ยว Electone ด้วยนะ
(พลังของ Yamaha Stagea  นี่มันสุดยอดไปเลย สะกดคนได้อยู่หมัดจริงๆ)
(สมชื่อรุ่น คนเดียวคุมได้ทั้งวงเลยจริงๆ)



ฝีมือผู้บรรเลงเองก็สุดยอดสุดๆ ไปเลยนะ 



ตุ๊กตาฮินะ แบบน้ำแข็งล่ะงิ




มีลานสเก็ตด้วยน้ะ เสียงเงินค่าเล่น แต่ก็ไม่แพงนะงิ


เดินมาจนสุดทางอีกฝั่งก็จะเป็น
Sapporo TV Tower ล่ะงิ



จบส่วนเทศกาลหิมะเท่านี้นะงิ  
แต่ยังไม่หมด ยังไม่ได้พูดถึงอาหารเย็นเลย
แน่นอน มาถึงฮอกไกโดทั้งที จะพลาดเมนูปูของฮอกไกโดได้อย่างไรล่ะงิ
เป้าหมายก็คือร้านบุ๊ฟเฟ่ปูที่อยู่ในหนังสือแนะนำของโรงแรม
แต่พอไปถึงที่นั่งเต็มล่ะ ก็เลยต้องเปลี่ยนไปกินอีกร้านนึงแทน
แน่นอนว่าได้กินอยู่แล้ว แต่ระหว่างทางก็เจออะไรน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ตามไปดูกันดีกว่างิ




เป็นร้านคาราโอเกะที่น่าสนใจมากๆ 


บาร์น้ำแข็งล่ะ อยากลองดื่มบรรยากาศแบบนี้บ้างจังเลย


ถึงร้านแล้วงิ


ปูล่ะ ปู
(นึกถึงเพลงของ เนโกะจัมพ์ขึ้นมาเลยทีเดียว)


ก็มีทั้งหมด 3 ชนิดให้เลือกทานกันแบบไม่อั้น


แล้วก็สภาพหลังกิน อร่อยกันมากมายสำหรับปูฮอกไกโด
อร่อยสมคำร่ำลือเลยจริงๆ หวานมากๆ เลยด้วย





ก็จบกันไปแล้วกับวันแรกของทริปฮอกไกโดแบบยาวๆ 
วันต่อไปจะไปที่ไหน ไว้คอยติดตามกันนะงิ
แล้วไว้เจอกันน้า~~~~~~