[18.2.2014] ARTNIA - Square Enix Official Store

[18.2.2014] ARTNIA - Square Enix Official Store

สวัสดีอีกครั้ง

หลังจากไป Hokkaidou แล้ว ก็ขอคั่นด้วยอะไรเบาๆ บ้างดีกว่า 

ครั้งนี้พอดีได้รับภารกิจต้องไปซิ้อของ แต่ทว่าของที่ว่านี่มันไม่ใช่ของธรรมดา แต่เป็น ช็อคโกแล็ตสำหรับวาเลนไทน์ 

ปีนี้ Square Enix ทำช็อคโกแล็ตรุ่นพิเศษ ออกมา 2 รุ่น 1. ลายมาเทเลีย FF VII AC  2. ลายสัญลักษณ์ต่างๆ ของ FF VII AC

(ลืมถ่ายง่ะ หารูปได้ใน Google เลยงิ) 

ซึ่งวางขายอยู่เฉพาะที่ ARTNIA เท่านั้น 

ถามว่า ARTNIA คืออะไร ก็เป็นร้านขายของ Official ของ Square Enix เพื่อขายของที่ละลึกต่างๆ จากเกมส์ของค่ายนั้นเอง 

นอกจากนี้ ยังมีส่วนที่เป็นคาเฟ่ ซึ่งมีเมนูประจำร้านที่น่าสนใจหลายเมนูเลยทีเดียว 

ส่วนจุดเด่นของที่นี่คือ Luxury Area หรือโซนจัดแสดงสินค้า ที่ตกแต่งได้สไตล์ไฟนอนมากๆ 

เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่ แฟนๆ ของค่าย Square Enix ควรจะมาเยี่ยมซักครั้ง 

ว่าแล้วก็ไปเลยดีกว่า

ARTNIA อยู่ใกล้ๆ กับ ตึกสำนักงาน Square Enix ในย่านชินจูกุ 

วิธีเดินทางก็ง่ายๆ เดินจากสถานีชินจูกุ ไปตามถนนเส้นหลักจนไปถึงสีแยกใหญ่ 

เลี้ยวซ้ายแล้วเดินมาอีกหน่อยจะเจอกับวัด แสดงว่ามาถูกทางเดินต่อได้เลยงิ

 หลังจากนั้นก็เลี้ยวซ้าย เดินตรงต่อไป จนเห็นตึก Nissin (แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว)

เดินตรงต่อไป ผ่านหน้าตึก Nissin แล้วเลี้ยวขวาข้างหน้า ก็จะเห็นตึก  Square Enix แล้ว

ตึกสวยมากมายจริงๆ งิ

ป้ายชัดๆ

เดินผ่านหน้าตึกมานิดเดียวก็จะเจอกับตึกที่คล้ายๆ โดม  สีขาวๆ (หรือรังไหมดีนะ)

ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ARTNIA  ดีไซน์ภายนอกได้แหวกตาดีมาก

ไม่รอช้า เข้าไปข้างในเลยดีกว่า

(ไม่ได้ถ่ายภายในแบบรวมๆ เพราะเขาไม่ให้ถ่ายนะงิ)

ภายในเข้ามาจะเป็นโซนขายของทั่วไป กับคาเฟ่

ของที่ขายก็ตั้งแต่พวกตุ๊กตา พวงกุญแจ ไปถึงฟิคเกอร์ และของสะสมอื่นๆ
พอดีวันที่ไปพอดีไม่ค่อยมีเงิน ไม่งั้นมีฟาดเรียบแน่ๆ เลย (ฮา)

ส่วนทางซ้าย เป็นโซนจัดแสดง ที่ดึงดูดสายตาตั้งแต่เข้าประตูร้านเลยทีเดียว

เข้าไปภาพที่เห็นตรงหน้ามันอลังมาก สมกับเป็นห้องจัดแสดงของ  Square Enix  จริงๆ

บรรยากาศแบบ ห้องคริสตัน สไตล์ FF และเปิดเพลง OST/BGM FF คลอไปด้วย มันขลังอลังจริงๆ นะงิ

แถมที่อยู่กลางห้องที่เหมือนเป็นเศษคริสตัล จะมีเส้นน้ำล้อมรอบ แล้วเล่นแสงทำให้เวลามองจะเหมือนหยดน้ำวิ่งขึ้นด้วย

ขลัง+อลังเป็นที่สุด 

ในนี้ถามพนักงานแล้ว เขาว่าถ่ายได้เต็มที่เลย งั้นก็จัดเต็มละงิ

สิ้นค้าในตู้โชว์มีตั้งแต่ฟิเกอร์ พวงกุญแจ และไอเทมต่างๆ
แต่ละชิ้นจะมีราคาขายเขียนบอกชัดเจน

อย่ารอช้าลุยกันเลยดีกว่า

เริ่มจากตู้ตรงกลางห้องกันก่อน 

Tidus - FF X

Vincent - FF VII

Yuffie - FF VII

Rufus + กล่องน้ำจิ้ม - FF VII

เจ๊ Lightning - FF XIV

เจ๊ Yuna - FF X

มาดูตู้รอบนอกกันบ้างดีกว่า ของแรงๆ ทั้งนั้นเลย 

SD Figure 

ศร้อยคอ (ของป๋า Squall ขายหมดเลยแฮะ)

แต่ละอันชวนหิ้วกลับบ้านทั้งนั้นเลย

ศร้อยคอของ Sephiroth ล่ะงิ

ชุดไอเทมจาก FF VII AC

(เสียดายเบลอง่ะ)

ชุดนี้หล่อออกมาได้ดีสุดๆ เลย งานเนีบยมากง่ะ

ตู้สุดท้ายของซีรีย์ FF ละงิ

Figure อื่นๆ 

Raiden จาก Metal Gear Solid อยากได้ง่ะ

ไอเทม จาก Kingdom Heart กันบ้างดีกว่า

ศร้อยคอ เก็บงานดีอยู่นะเราว่า

Keyblade สวยโฮกจริงจัง

Oath keeper สวยมากมาย

ก็จบกันไปแล้ว กับสถานที่สำหรับแฟนๆ  Square Enix  

คงมีคนโฮกของกันหลายคนแน่นอน จะเห็นว่าของบางอันต้องสั่งทางเวปเท่านั้นด้วยนะ

ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูเวปได้เลย (เดี๋ยวแปะให้ตอนท้ายงิ)

เป็นอีกที่ที่อยากแนะนำให้มากันจริงๆ นะงิ

ไว้มีโอกาศจะไปอีกครั้ง เพราะยังไม่ได้ไปนั่งจิบเครื่องดื่มในคาเฟ่เลย (ฮา)

ครั้งนี้ก็สั้นๆ เท่านั้นแหล่ะงิ แล้วไว้พบกันครั้งหน้าน้า~~~~

---------- Link ที่เกียวข้อง ------------------

Artnia  -  http://www.jp.square-enix.com/artnia/en/index.html

Online Store - http://www.square-enix-shop.com/jp/#_ga=1.65589102.1927279712.1398857710

Online Store - http://www.square-enix-shop.com/jp/jump/e_store.html

[14-16.2.2014] Hokkaido Day 4-6 - ตกปลาน้ำแข็ง ลุย Hakodate + Goryokaku Park

[14-16.2.2014] Hokkaido Day 4-6  - ตกปลาน้ำแข็ง ลุย Hakodate + Goryokaku Park


มาถึงตอนสุดท้ายของการเดินทางตะลุย Hokkaido ของเรากันแล้ว
ครั้งนี้จะเดินทางลงใต้ไปยังเมือง Hakodate เมือสุดท้ายในทริปนี้แล้ว
ไม่รอช้าไปลุยกันเลยดีกว่า

เช้าวันที่ 4 ออกเดินทางจากที่พักเพื่อไปตกปลาในน้ำแข็งกัน 

ก็ออกเดินทางแต่เข้าเพื่อไปที่สะเลสาบเล็กๆ จะเรียกบึงก็ได้ ชื่อ jyunsai-numa

ระหว่างทางก็เจอสะเลสาบอีกแห่งที่ผิวเป็นน้ำแข็งด้วย

เป็นวิวที่สวยดีจริงๆ ตรงกลางเป็นน้ำ รอบๆ นั้นเป็นน้ำแข็งทับด้วยหิมะ สวยมากๆ เลยจริงๆ

นั่งรถไม่นานก็มาถึงแล้วสถานที่ตกปลาของเรา

เดินลุยเข้าไปในบึง แล้วที่ผ่านๆ มานี่เราเดินบนน้ำแบบไม่รู้ตัวเลย
เดินไปถึงตรงกลาง เขาเตรียมที่ตกปลาไว้เรียบร้อยละงิ

เมื่อวานเย็นเขาสอนแล้ว มาถึงก็รับอุปกรณ์แล้วก็ลุยกันเลยงิ

แน่นอนว่าเขาเจาะน้ำแข็งไว้ให้แล้ว เหมือนที่เห็นในหนังเลยงิ

ตกได้แบบฟลุกๆ 1 ตัว 

เขาใช้เครื่องแบบนีเจาะนี่เอง

ที่ตกได้ก็เอามาทอดแบบนี้แหล่ะงิ อร่อยมากๆ เลยนะงิ

เหมือนอาหารบ้านเราเลย

หลังจากนั้นก็แยกกลุ่มกันระหว่างคนที่จะไป Hakodate กับ คนที่ไปโฮมสเตย์ ส่วนของเราเลือกไป Hakodate ก็เลยต้องแยกกับเพื่อนๆ ที่มาจากโรงเรียนเดียวกัน 

นั่งรถชมวิวเพลินๆ ก็มาถึงที่พักสุดท้ายของทริปแล้ว ที่  fururu hakodate แน่นอนว่าเป็นที่พักแบบสำหรับนักเรียนมาเข้าค่ายอีกแล้วงิ 

แน่นอนมาถึงสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือสำรวจ

หลังทานมื้อเที่ยงก็ได้เจอกับเหล่าเด็กๆ มหาลัยของที่นี่ ที่จะมาทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน
แล้วก็โดนลากไปสำรวจเมือง (ฮา)

รถรางบ้านๆ เขาล่ะ

จุดเด่นอีกอย่างของเมืองนี้ก็คือผังเมืองที่สวย และมีเนินที่เป็นระเบียบ
เขาก็เลยพาเดินขึ้นเนินเพื่อไปยังเนินชื่้อดังที่สุด เดี๋ยวเราไปดูกัน

อ๋อ ใช่ เมืองฮาโกะดาเตะ เองก็เป็นเมืองแรกๆ ที่ได้ติดต่อกับชาวต่างชาติหลังปฎิรูปการปกครอง เพราะงั้นจะเห็นอาคารและสิ่งก่อสร้างแบบตะวันตกเยอะมาก 

เนินนี้สวยมากๆ วิวที่มองออกไปก็สวย

มีโบสถ์ของรัสเซียด้วย

แผนที่เมืองล่ะ

นี่แหล่ะเนินที่ 8 ที่ขึ้นชื่อล่ะ วิวสวยจริงๆ ด้วย ด้านหน้าเป็นทะเล ด้านหลังมีโรงเรียนด้วยนะ แต่ลืมถ่าย(ฮา)

เอาล่ะเดินกลับกันดีกว่า

แผนที่เมืองแบบคราวๆ ล่ะงิ

กลับมาถึงหน้าที่พักละงิ

ตราประจำตระกูล และ เขตแดนสมัยก่อน เท่ห์ไปเลยงิ
บอร์ดนี้อยู่ในโรงอาหาร

กลับมาถึงก็เริ่มทำ Ice candle ต้องทิ้งไว้ 1 วัน ให้กลายเป็นน้ำแข็ง จะได้รึเปล่านะ มาลุ้นกัน

 แล้วก็ปิดท้ายวันด้วยอีเวท์แต่งแฟนซี

กลุ่มนี้แรงได้อีกง่ะ

วันที่ 5 ของทริป 

วันนี้ตื่นเข้าก็เลยขอเดินสำรวจแถวๆ ที่พักตามนิสัยซะหน่อย

เจอร้านทำขนมญี่ปุ่นล่ะ ต้องลองๆ

สรุปได้มา 3 อย่าง ไดฟุกุเพิ่งเสร็จใหม่ๆ ก็เลยเอามาด้วย (ฮา)
ห่อแบบโบราณด้วยนะงิ อร่อยมากๆ เลย แถมไม่แพงด้วย 

3 ชิ้นไม่ถึง 500 เยนง่ะ

หลังจากทานมื้อเช้าก็เป็นกิจกรรมทำโดมหิมะล่ะ
ลูกโป่งนี่ช่วยๆ กันเป่าไว้ตั้งแต่เมื่อคืนล่ะงิ

วิธีทำง่ายมาก วางลูกโป่งลงไป แล้วก็กลบมันด้วยหิมะโลด
ที่ใส่ลูกโป่งไว้เพราะจะได้กลายเป็นโพรงด้านในแล้วก็จะมุดเข้าไปอยู่ได้งิ

นานเหมือนกันนะ กว่าจะมาได้ขนาดนี้ แต่นี่ยังไม่เรียบร้อย เพราะมันยังเล็กเกินไป ต้องทำให้มนขึ้นแล้วก็ใหญ่ขึ้นกว่านี้อีกงิ

ในรูปนี่หนึ่งในคนญี่ปุ่นที่มาทำกิจกรรมร่วมกัน เต้น Rock Dance ได้โอเคเลยทีเดียว

หลังจากได้รูปทรงที่ต้องการแล้วก็ขุดทางเข้ากันโลด

แล้วก็เสร็จเรียบร้อยกระท่อมหิมะของทีมเรา

 

มื้อเที่ยงอลังการเป็นการทานร่วมกันคนท้องถิ่น ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันเยอะมากเลย
เราที่พอได้ญี่ปุ่นแบบเอาตัวลอดได้ก็คุยกันคนอื่นแบบกึงมึนกึ่งมั่ว แต่ก็สนุกดีนะงิ 

มีให้ตำโมจิด้วย นั้นสินะช่วงปีใหม่อีกอย่างที่ควรทำก็ ตำโมจิเนี่ยแหล่ะ
แน่นอนเราก็ไปตำด้วยเหมือนกันะงิ

ท้ายๆ งานเลี้ยงก็เป็นการให้แต่ละชาติออกมาเต้นล่ะงิ
ไม่ได้บังคับให้เต้นท่าประจำชาติ จะเต้นอะไรก็ได้งิ
ก็เลยรั่วสุดๆ กันไปเลย (ฮา)

หลังจบงานเลี้ยงก็คือ Free time  ที่เรารอมานานเพราะเป้าหมายของเราที่นี่คือ
เดินทางไปเหยีบบป้อมปราการ-ปราสาท5แฉก ฉากสุดท้ายแห่งช่วงปฎิวัติเมจิ

ก็นั่งรถรางในเมืองไปลงที่สถานี Goryokakukoenmae แล้วก็เดินต่ออีกพักใหญ่ๆ
วันนี้พอตกบ่ายอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หิมะเริ่มตกแรงขึ้นๆ เรื่อยๆ  แต่ยังไงก็จะไป
(แน่นอนไปคนเดียวอีกแล้ว (ฮา))

อะใกล้ถึงแล้ว นั้นคือหอคอยสำหรับขึ้นไปดูทั้งสวนล่ะ

ฉากในลิฟท์ระหว่างขึ้นไปด้านบน 

ขึ้นมาถึงแล้วป้อม-ปราสาทดาว 5 แฉก

ขาดไม่ได้รูปปั้นของท่าน Hijikata toshizo แห่งชินเซนกุมิ
ตำแหน่งสุดท้ายคือ รองรัฐมนตรีกระทรวงทหารบก (สาธารณรัฐเอะโสะ)

มีแบบจำลองฉากสำคัญๆ ต่างๆ ด้วยนะ
(ไม่แม่นตรงจุดนี้ขอไม่บรรยายนะงิ)

ชอบฉากนี้ เป็นฉากที่คุณหมอ(ลืมชื่อ) ไม่ยอมให้ฆ่าทหารที่บาดเจ็บ โดยยึดถือหลักของกาชาติ

ฉากสุดท้าย การเซนสัญญาสงบสุข ณ ศาลเจ้า

แบบจำลองของป้อมปราการ

ขออีกซะหน่อยก่อนลง

ปราสาท และ ป้อมปราการทรงดาวในที่ต่างๆ 

มีพื้นกระจกให้มองลงไปข้างล่างด้วยล่ะงิ

แผนผังโครงสร้างของฝ่ายต่างๆ 

ลงมาข้างล่างละดีกว่า เพราะเราจะเข้าไปเดินในป้อมกัน

จัดฉากแบบนี้อลังสุดๆ ไปเลย 

เดินเข้าไปในสวนละงิ

ภายในก็ยังมีอาคารต่างๆ อยู่  แต่คิดว่าน่าจะสร้างใหม่
ส่วนเรื่อนใหญ่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ภายในก็มีของโบราณต่างๆ จัดแสดงไว้
แต่เราเวลาไม่พอก็เลยไม่ได้เข้าไปดูด้านในงิ

ภายในสวนสวยมากเลยจริงๆ 

เรื่อนใหญ่ๆ กับแผนผังอาคาร

ป้ายแนะนำสถานที่เที่ยวของเมืองฮาโกะดาเตะ 

คืนนี้เราจะขึ้นไปดูวิวนี่ล่ะงิบนยอดเขา ฮาโกะดาเตะ

จากคำบอกเล่าของคนญี่ปุ่นที่มากิจกรรมด้วยกัน เขาบอกว่าให้ลองแวะกินแฮมเบอเกอร์ใกล้ๆ สวนดูด้วย เพราะร้านนี้หากินได้ที่ Hokkaido เท่านั้น
มีเหรอเราจะพลาดลุดกันเลยกับ เบอร์เกอร์แห่งฮอกไกโด Lucky Pierrot 

ที่นี่เคยทำเบอร์เกอร์ไซต์ยักด้วยนะ

แต่ร้านได้น่าสนใจมาก เหมือนร้านสไตล์ยุค 19 เลย

เบอร์เกอร์อัดดับ 1 ของร้าน เบอร์เกอร์ไก่ทอดสไตล์จีน

chinese chicken burgers

อร่อยจริงๆ ด้วย เล่นเอาอันดับเบอร์เกอร์หมายเลข 1 ในใจเราอย่าง BK สั่นเลยทีเดียว

เริ่มมืดแล้ว และหิมะก็เริ่มจะตกแรงขึ้น

กลับมาทันจุดเทียนพอดี แต่ทว่าตัวน้ำแข็งสำหรับเทียนมันไม่แข็งตัว
ก็เลยจุดกันแค่เทียนเปล่าๆ โดยไม่ได้ครอบน้ำแข็งง่ะ น่าเสียดาย

หลังทานมื้อเย็น ก็ถึงเวลาขึ้นเขาฮาโกะดาเตะแล้ว ลุยโลด

ระหว่างรอขึ้นกระเช้าเขามีจุดพลุด้วย โชคดีจริงๆ
(ไม่รู้จุดฉลองอะไรเหมือนกัน)

เข้ามาข้างในพื้นที่ซื้อตั๋วกับรอขึ้นกระเช้า

ใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย

วิวเมืองฮาโกะดาเตะยามค่ำคืน

เห็นฉากแบบนี้แล้วนึกถึงหนัง Sci-fi เวลาจอดเทียบยานเลย (ฮา)

กระเช้าด้านหน้าบ้าง

มีภาษาไทยด้วย (ฮา)

ขึ้นมาถึงดาดฟ้าสำหรับดูเมืองแล้ว
อยากจะบอกว่าทั้งหิมะ ทั้งลม ที่ตีเข้ามานี่มันหนาวสุดขั้วเลยจริงๆ

มีไฟประดับด้วยนะงิ

ไม่เป็นรูปที่โฆษณาเลยเนอะ (ฮา) ก็นะหิมะตกนิน่า

 

ชอบซอฟครีมที่นี่มาก อร่อยทั้งเนื้อทั้งโคนเลย ฟริน~~~

วันสุดท้ายของการเดินทาง 

จริงๆ เมื่อคืนมีสมาชิกให้ด้วยเป็นเด็กๆ ประถมล่ะงิ น่ารักมากๆ เลย

ช่วงสุดท้ายของทริปละ กับพิธีปิดที่มีการเอารูปวันที่ผ่านๆ มา มาให้ดูกัน

สองสาวรัสเซีย นิสัยดีทั้งคู่เลย

รูปหมู่สุดท้ายก่อนขึ้นรถกันงิ

่มุ่งสูสนามบิน ฮาโกะดาเตะ เพื่อกลับโตเกียวกันละงิ

ท้องฟ้าสวย อากาศดีมาก เหมาะแกการบินจริงๆ (ว่าไปนั้น)

ถึงสนามบินแล้ว ตัวสนามบินก็ไม่ได้ใหญ่มากนะงิ

เช็คอิน แล้วก็ไปซื้อของฝากกันดีกว่า

อะ ตุ๊กตาฮินะ สำหรับฉลองวันเด็กผู้หญิง

นั้นสินะ ใกล้ถึงวันเด็กผู้หญิงแล้วนิน่า (วันที่ 3 เดือน 3)

โค้งสุดท้ายของการซื้อของฝาก (ฮา)

ขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้วงิ

ก็ขอจบทริป Hokkaido 6 วัน เพียงเท่านี้ ก็เป็นอะไรที่สนุกมากเหมือนกันนะ ได้เห็นได้เจอได้ลองทำหลายๆ อย่าง ได้ประสบกาณ์และความทรงจำดีๆ มาเยอะเลยเหมือนกัน

แต่สำหรับ Hokkaido แล้วคงต้องขึ้นไปเก็บแบบ แบ็คแพ็ค อีกรอบ (ชอบเที่ยวสไตล์นี้มากกว่างิ)
จะมีโอกาศได้ไปรึเปล่าก็ไม่รู้ ชอบเมือง Hakodate ด้วย ถึีงจะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ แต่เราว่าเป็นเมืองที่สงบและสวยมากๆ อีกเมืองนึงเลย อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศไม่ค่อยเหมือนญี่ปุ่นด้วยมั้ง (ฮา)


ครั้งนี้ก็ขอจบเท่านี้แหล่ะงิ
ครั้งหน้าจะไปไหนก็ติดตามกันนะคะ บายงิ~~~~~